บอร์ดคปภ.ไฟเขียวตามที่เลขาฯคปภ.เสนอ เพิ่มความคุ้มครองพรบ.ผู้ประสบภัยจากรถจากเสียชีวิตจ่ายรายละ 2 แสนบาท เป็น 3 แสนบาท ส่วนบาดเจ็บเพิ่มจาก 5 หมื่นบาทเป็น 8 หมื่นบาท ดีเดย์เริ่มใช้ 1 เม.ย.59 นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยเรา
แหล่งข่าวจากวงการประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ในการประชุมคณะกรรมการสำนักงานกำกับและส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจประกันภัย(คปภ.)ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี ที่ประชุมบอร์ดคปภ.ได้มีมติเห็นชอบตามที่ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคปภ.ได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบปรับเพิ่มความคุ้มครองตามเงื่อนไขความคุ้มครองพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 จากกรณีบาดเจ็บคุ้มครองรายละ 5 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 8 หมื่นบาท และกรณีเสียชีวิตปรับเพิ่มความคุ้มครองจากเดิม 2 แสนบาท เพิ่มเป็น 3 แสนบาท โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 เพื่อเป็นของขวัญในวันปีใหม่ไทยเราที่จะมีการรณรงค์ลดอุบัติเหตุสงกรานต์ในช่วง 7 วันอันตรายพอดี
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ภาคเอกชนโดยสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้เคยมีข้อสรุปร่วมกับกับทางคปภ.ในสมัยนายประเวช องอาจสิทธิกุล เป็นเลขาฯคปภ.ไปแล้ว และนายประเวชได้เสนอให้ที่ประชุมบอร์ดคปภ.ให้พิจารณาเห็นชอบในหลักการไปแล้วอีกด้วย โดยยอมรับหลักการในดำเนินการปรับแก้ไขเป็นแพกเกจ ซึ่งจะยินยอมให้คปภ.ปรับเงื่อนไขความคุ้มครองพ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถจากอัตราความคุ้มครองกรณีบาดเจ็บ 5 หมื่นบาท เป็น 1 แสนบาท และกรณีเสียชีวิตเพิ่มความคุ้มครองจาก 2 แสนบาท เป็น 5 แสนบาท
แต่ภาคเอกชนมีเงื่อนไขจะต้องปรับเพิ่มเบี้ยประกันรถจักรยานยนต์ให้ภาคธุรกิจจัดเก็บจากผู้เอาประกันภัยรถจยย.จาก 300 บาท เป็น 400 บาท หรือเพิ่มค่าเบี้ยพรบ.ฯอีก 100 บาทนั่นเอง เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนการเพิ่มความคุ้มครองกัน เนื่องจากภาคธุรกิจไม่สามารถรับได้กับอัตราสินไหมจ่ายหรือเคลมเรโชรถจักรยานยนต์ที่ปัจจุบันสูงถึงกว่า 90% ขณะเดียวกันต้องมีการรวมหน้าตารางกรมธรรม์ภาคสมัครใจและภาคบังคับ(พรบ.ฯ)ไว้เป็นฉบับเดียวกัน ซึ่งจะต้องทำควบคู่กันไปกับการเพิ่มความคุ้มครองพรบ. และปรับขึ้นเบี้ยรถจยย.
กระทั่งมาล่าสุดคปภ.นำโดยนายตนุภัทร รัตนพูลชัย ผู้ช่วยเลขาคปภ.ฯ และนายชูฉัตร ประมวลผล ผู้ช่วยเลขาฯคปภ.ได้หารือกับนายนพดล สันติภากรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และนายอรัญ ศรีว่องไท กรรมการบริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทยหาข้อสรุปในการปรับเพิ่มความคุ้มครองพรบ.ฯจากกรณีเสียชีวิต 2 แสนบาท เป็น 3 แสนบาท และกรณีบาดเจ็บจาก 5 หมื่นบาท เป็น 8 หมื่นบาท ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเอกชนได้ต่อรองขอเพิ่มความคุ้มครองเพิ่มขึ้นเพียง 50% หรือกรณีบาดเจ็บจ่าย 7.5 หมื่นบาท แต่ทางคปภ.ได้ต่อรองขอเพิ่มอีก 3 หมื่นบาทถ้วน และไม่ยินยอมให้มีการปรับเบี้ยฯเพิ่มอีก 100 บาทตามที่ขอ ซึ่งทางตัวแทนภาคเอกชนไม่มีความเห็นใดๆ
โดยเห็นว่าเป็นอำนาจของนายทะเบียนหรือเลขาฯคปภ.ที่สามารถพิจารณาเห็นชอบได้ตามกรอบกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งสมาคมฯไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องนี้เท่าใดนัก เพราะต้องการให้คปภ.รีบเร่งดำเนินการตาม ที่มติบอร์ดคปภ.ได้รับหลักการเอาไว้เดิม แต่เนื่องจากเลขาธิการคปภ.เห็นว่า แนวทางดังกล่าวค่อนข้างต้องใช้ระยะเวลา เพราะต้องออกกฎกระทรวง และต้องแก้เนื้อหาในกรมธรรม์อีกเยอะ เพราะไม่ใช่อำนาจของบอร์ดคปภ.จะดำเนินการได้เพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงเห็นว่า ควรจะดำเนินการเพิ่มความคุ้มครองให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อเป็นของขวัญวันปีใหม่ในวันสงกรานต์ปีนี้ไปก่อน ส่วนแนวทางที่จะเสนอแก้ไขเป็นแพกเกจตามที่มติบอร์ดได้เห็นชอบในหลักการไปแล้วนั้น ค่อยมาว่ากันในภายหลังอีกที
ที่มา http://siamrath.co.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น